หลวงพ่อชินประทานพร |
การสร้างบานเกล็ดด้วยปูนขนาดใหญ่ไว้บังแดดให้องค์พระหลวงพ่อชินประทานพร
พร้อมกัยประดับตกแต่งอย่างสวยงามอ่อนช้อยตระการตา
หลังซุ้มพระ มีช่องให้ลมผ่านได้จึงตัดปัญหาโต้ลมแรงจะล้มได้ |
ตกแต่งลวดลายต่างๆสวยงาม |
ระหว่างเส้นทางไปวัดถ้ำเสือ |
ที่สังเกตุคือเสาไปใช้ปลาสีทองมาประดับ น่าจะบอกว่าเป็นเมืองที่อุดมไปด้วยปลา |
มีปลาหลายท่าทั้งแบบว่ายธรรมดา และติดเบ็ดโคมไฟ |
รถราสบายไม่มากเกินไป |
เส้นทางผ่านเขื่อนแม่กลอง |
เอาข้อมูลจากท่องเที่ยวเมืองกาญจนบุรีมาฝากเพิ่มครับ
วัดถ้ำเสือ เป็นวัดที่มีชื่อเสียงไม่น้่อย รวมถึงยังถือว่าเป็นวัดที่มีพระที่มีองค์ใหญ่ที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี พระเจดีย์ที่มีความสวยงามโดดเด่น สามารถมองเห็นได้จากในระยะไกล เพราะตั้งอยู่บนเนินเขา ใครที่มาเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี สามารถแวะเยี่ยมชมวัด สักการะพระบรมสารีริกธาตุภายในพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท และนมัสการหลวงพ่อชินประทานพรวัดถ้ำเสือตั้งอยู่บนเนินเขา ในตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง เป็นอำเภอที่อยู่ก่อนถึงตัวเมืองกาญจนบุรี เดิมเป็นเพียงสำนักสงฆ์เล็กๆ ที่อยู่ในบริเวณถ้ำเสือด้านล่างริมเนินเขา ต่อมาได้แรงศรัทธาจากชาวบ้าน ร่วมกันสร้างและบูรณะ จนกลายเป็นวัดที่ใหญ่โต และมีความวิจิตรงดงาม
เมื่อไปถึงวัดถ้ำเสือด้านหน้าจะเป็นลานจอดรถ และร้านขายของกิน ของฝากต่างๆ ศาลาด้านล่างติดกับบริเวณที่จอดรถ เป็นศาลาการเปรียญประดิษฐานสังขารหลวงปู่ชื่น ที่บรรจุอยู่ในโลงแก้ว มีศาลาประดิษฐานรูปหล่อเจ้าอาวาสหลวงพ่อสิงห์ หลวงพ่อชื่น ซึ่งหลวงพ่อสิงห์เป็นพระธุดงค์ที่มาพบถ้ำเสือ ส่วนหลวงพ่อชื่นเป็นผู้บูรณะปฏิสังขรวัด และยังมีส่วนที่เป็นถ้ำ ที่แบ่งออกเป็น 4 ห้อง มีห้องโถงใหญ่ประดิษฐานพระประธาน 2 ห้องสำหรับหลวงพ่อชื่นมาบำเพ็ญภาวนา และห้องประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิม
การขึ้นไปบนเขาที่ประดิษฐานหลวงพ่อชินประทานพร และพระเจดีย์ ทำได้ทั้งเดินขึ้นบันไดนาคด้านหน้า ที่มีจำนวน 157 ขั้น ชันประมาณ 60 องศา หรือสามารถซื้อตั๋วรถรางไฟฟ้านั่งไปกลับ (ไม่ต้องเดิน) ในราคาเพียง 10 บาท เมื่อขึ้นไปถึงบนเขาบริเวณวัด ด้านซ้ายติดกับบริเวณรถรางจะเป็นพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท
เดินตรงไปด้านหน้าจุดเด่นจุดแรกคือ พระชินประทานพร พระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง ด้านซ้ายขององค์พระเป็นวิหาร ส่วนด้านขวาเป็นพระอุโบสถอัฏมุข นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่วัดมักจะสักการะพระชินประทานพรก่อน แล้วค่อยขึ้นไปยังพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท เพื่อนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ และชมวิวทิวทัศน์ แบบ 360 องศา ซึ่งด้านหน้าวัดจะเห็นลำน้ำแม่กลอง ด้านหลังเป็นท้องทุ่งนาเขียวขจี ส่วนด้านข้างติดกับองค์พระเจดีย์ เป็นเก๋งจีนของวัดถ้ำเขาน้อย
ถึงลานวัดวันนี้คนน้อย |
ทีมงานเริ่มคุ้นเคยกับกล้องเริ่มมีท่าทาง |
ละลายพฤติกรรม |
ด้วยการแสดงท่าตามใจ |
บันใดขึ้นที่ชันมากจนเรากลัวๆ แต่ก็ต้องเดินขึ้นเพราะกระเช้างดบริการแล้ว |
มีราวจับค่อยๆเดินถนอมหัวเข่า |
เล่นกล้องเช่นเคย |
ยืนระเบียงวัดสวยงามมากเห็นไปไกลสุดสายตา |
สนุกกับนายแบบนางแบบอย่าเพิ่งเบื่กันนะครับ |
เน้นวิวนะครับ |
สวยสุดสายตา |
หลวงพ่อชินประทานพร |
พระเจดีย์เกศแก้วปราสาท |
พระเจดีย์เกศแก้วปราสาท |
มองเห็นเก๋งจีนวันถ้ำเขาน้อยด้วย |
เอานิดหนึ่งเพื่อนที่ทำให้ได้มาถึงวัดอย่างปลอดภัย |
พระเจดีย์เกศแก้วปราสาท |
อ้าปากรับลมเย็นไม่ใช่ขี้นก |
ขอแบล็คกราวหน่อย |
นางแบบวัยไกล้เกษียน |
พระเจดีย์เกศแก้วปราสาทอีกมุม |
หามุมกล้อง มุมกลองระฆัง |
อยากให้เห็นเจดีย์แบบจีน |
เจดีย์วัดถ้ำเขาน้อย |
ทุ่งนาหลังวัด |
วิหารจตุรมุข |
มองไกลๆเห็นวัวฝูงใหญ่กำลังเดินตามถนน |
พระเจดีย์เกศแก้วปราสาท |
พระเจดีย์เกศแก้วปราสาท |
เล่นกับภาพวาดซุ้มประตู |
พระเจดีย์เกศแก้วปราสาท |
เพิ่มคำอธิบายภาพ |
พระเจดีย์เกศแก้วปราสาท |
พระอุโบสถอัฏมุข |
พระอุโบสถอัฏมุข |
ทางขึ้นวัดอีกด้านดูท่าจะไม่คอ่ยได้ใช้งาน |
สงสารธงชาติไทยนะครับ |
ฝูงวัวมองเห็นแต่ไกล ไปไหนเห็นวัวควายก็ใจชื้นตามประสาหมอสัตว์ครับ |
เรียกเล่นๆไปก่อนว่าพวงชมพู แต่เออสีม่วงนี่นา |
ดอกอะไรใครรู้จัก สวยดีออกดอกพอดีที่เราไปเที่ยว |
เพิ่มคำอธิบายภาพ |
พระเจดีย์เกศแก้วปราสาท |
ดอนขาลงเดินมาทางที่ผ่านถ้ำภาวนาของหลวงปู่แต่ประตูปิดไม่ได้เข้าไปกราบ ไหว้อยู่หน้าถ้ำ |
เดินชมวัดไหว้พระแล้ว อุดหนุนไอติมร้านค้าข้างวัดครับ |
ร้อน ไอติมละลาย |
ก่อนกลับจากวัดแอ๊คชั่นกันอีกรอบ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น