วันเสาร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2559

ไปกัน..ดูสะพานไม้ยาวๆ. ที่สังขละบุรี

หลังจากเดินทางกว่า ๒๐๐ ก.ม.จากในเมืองกาญจนบุรีในที่สุดก็มาถึงตัวอำเภอสังขะบุรี ซึ่งระหว่างทางเราแวะชิมกาแฟ ครั้งหนึ่ง แวะรับประทานอาหารกลางวันที่น้ำตกไทรโยค  แวะทางรถไฟสายมรณะ แวะพิพิธภัณฑ์ทางรถไฟสายมรณะของทหาร  แล้วถึงสังขะเราขับรถหาที่พักที่จองไว้ก่อนทันทีเพื่อเก็บของพักล้างหน้าล้างตาก่อนไปเดินสะพานช่วงตะวันตกดินเขาว่ากันว่างามริงๆ จะไปพิสูจน์กัน ได้ที่พักแล้วเจ้าของห้องพักให้คำแนะนำการตระเวณพอสมควรแล้วเราก็ออกไปชมสะพานกัน ด้วยไม่คุ้นเคยเราก็เลยเดินไกลหาที่จอดรถไม่ได้

เวลาและวารีไม่เคยคอยใคร

พระอาทิตย์คล้อยลงลับยอดเขาอย่างรวดเร็วระหว่างที่เราเดินไปสะพานมอญ

เหลือแต่แสงสว่างไว้ไห้เราชื่นชมความอุตสาหะของชนชาวมอญที่ได้ร่วมกันสร้างสะพานแห่งนี้ให้เราได้มาชมมาเดินข้ามครั้งหนึงในชีวิต

บริเวณทางเข้าสะพานมีตู้บริจาค ดีแล้วมีทุนทรัพย์ไว้ซ่อมแซม

มองไปฝั่งมอญเห็นวัดหลวงพ่ออุตมะไกลๆใช่หรือปล่าวไม่รู้นะ

ตื่นเต้นจนไม่รู้จะเก็บภาพยังไงดี

สะพานเก่าที่พังขาดเป็นสองท่อน



มองไปรอบๆสะพาน



เรือนแพก็มีที่พักเหมือนกันคงต้องจองล่วงหน้า



สะพานเก่าที่พังยังมีร่องรอยอยู่ครับ

มองฝั่งตัวอำเภอครับมีสะพานเชื่อมมีทีจอดรถมากแต่เราไม่คุ้นเคยเลยเดินจากรถจอดมาเสียไกล

มองผ่านหัวไม้สะพาน

มองลอดช่อง

มีแสงร่องรอยยานจรวจด้วยสิครับบนฟ้า
ท่าสวย

ทำไมคนเยอะจังเลย


ภาพที่เห็นบ่อยๆที่นี่


แจกนามบัตร


หมอแสงวรรณ์ได้เพื่อนใหม่เป็นหมอ ทีแรกนึกว่าหมอความคุยเก่ง แง้มดูนามบัตรที่ให้หมอดูครับ


หามุมส่องขาสะพาน



น้องนักศึกษามาขอสอบถามว่ารู้จักที่นี่ได้อย่างไร มันจะพัฒนาจนวัฒนธรรมดั้งเดิมหานไปไหม

นักล่าเงินรางวัลโชว์กระโดดน้ำ

มองย้อนกลับฝั่งใเมือง

ค่ำจะมืดแล้วหลายตนยังรอเก็บภาพสวยๆไม่ยอมกลับ

ผู้ตนมากมายครับ

สวยจังสะพานมอญ
บรรยากาศดีลมโชยมาตลอดทำให้ไม่ร้อน

ภาพแสงสุดท้ายวันนี้ที่สะพานมอญ
พี่ๆใจสู้จริงๆเดินทนดี
เดินกลับจากสะพานมืดแล้ว

หิวๆๆรออาหารมาพอมาถึงไม่มีใครจะกดชัตเตอร์อีกแล้วหม่ำอย่างเดียวครับ

กินกินกินแล้วจะไปนอนเอาแรงไว้ลุยพรุ่งนี้ด่านเจดีย์สามองค์
ที่พักเรามีฝนตกด้วย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น